วันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2556

บทที่ 2 โลกและการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 2  โลกและการเปลี่ยนแปลง
ทฤษฎีการแปรสัณฐานแผ่นธรณีภาค (plate tectonic)
• เสนอโดย ดร.อัลเฟรด เวเกเนอร์ (Dr.Alfred Wegener)
ชาวเยอรมัน
• ทฤษฎี : แต่เดิมแผ่นดินบนโลกเป็นแผ่นดินผืนเดียวกัน เรียกว่า พันเจีย
(Pangaea) Pangaea แปลว่า “แผ่นดินทั้งหมด”


200 ล้านปี ก่อนพันเจียแยกออกเป็น 2 ทวีปใหญ่ ได้แก่ ลอเรเซีย
อยูู่ทางเหนือ ซึ่งมียุโรปติดอยูู่กับอเมริกาเหนือ และทวีปกอนด์วา
นาอยู่ทางใต้


• ต่อมากอนด์วานาแตกออกเป็น อินเดีย อเมริกาใต้และแอฟริกา
ส่วนออสเตรเลียยังคงเป็นส่วนหนึ่งของกอนด์วานา


65 ล้านปี ก่อนมหาสมุทรแอตแลนติกแยกตัวกว้างขึ้น ทำให้
แอฟริกาเคลื่อนตัวห่างออกจากอเมริกาใต้


• ต่อมายุโรปและอเมริกาเหนือแยกออกจากกัน โดยอเมริกาเหนือโค้งเข้า
เชื่อมกับอเมริกาใต้ และออสเตรเลียแยกออกจากแอนตาร์กติกา
•อินเดียเคลื่อนเข้ากับเอเซียเกิดเป็นภูเขาหิมาลัย

หลักฐานสนับสนุนทฤษฎีของเวเกเนอร์
• รอยต่อของแผ่นธรณีภาค รูปร่างของทวีปบางทวีปเชื่อมต่อกันได้
พอดี เช่น ด้านตะวันออกของทวีปอเมริกาใต้ เชื่อมต่อด้านตะวันตก
ของทวีปแอฟริกาได้ดีสาเหตุที่ต่อกันไม่สมบูรณ์ มาจากการกัดเซาะชายฝั่ง และการสะสมของตะกอน
• ความคล้ายคลึงกันของกลุุ่มหิน และแนวภูเขา กลุ่มหินในอเมริกาใต้
แอนตาร์กติกา แอฟริกา ออสเตรเลีย และอินเดีย เป็นหินที่เกิดในยุคคาร์บอนิเฟอรัสถึงยุคจูแรสซิกเหมือนกัน


• หินที่เกิดจากการสะสมตัวของตะกอนจากธารนํ้าแข็ง
• ซากสัตว์ดึกดำาบรรพ์ มีการพบซากดึกดำาบรรพ์ 4 ประเภท คือ มี
โซซอรัส ลีสโทรซอรัส ไซโนกาทัส และกลอสโซพเทรีส ใน
ทวีปต่าง ๆ ที่เคยเป็นกอนด์วานา


หลักฐานอื่นๆ ที่สนับสนุนการเคลื่อนตัวของทวีป
• สันเขาใต้สมุทร และร่องลึกใต้สมุทร

• อายุหินบริเวณพื้นมหาสมุทร จากการสำรวจมหาสมุทรแปซิฟิ ก
แอตแลนติก และอินเดีย พบหินบะซอลต์ที่บริเวณหุบเขาทรุดและ
รอยแยกบริเวณสันเขาใต้สมุทร
--ไกลรอยแยกอายุจะมากใกล้รอยแยกอายุจะน้อย--
• ภาวะแม่เหล็กโลกบรรพกาล (ร่องรอยสนามแม่เหล็กโลกในอดีต)
ศึกษาจากหินบะซอลต์ที่มีแร่แมกนีไทต์


กระบวนการที่ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี
• วงจรการพาความร้อน คือ กระบวนการที่สารร้อนภายในโลก
ไหลเวียนเป็นวงจร ทำให้เปลือกโลกกลางมหาสมุทรยกตัวขึ้น
• เมื่อสารร้อนไหลเวียนขึึ้นมาจะมีความหนาแน่นเพิิ่มขึึ้น และมุด
ลงบริเวณร่องลึกใต้สมุทร



แผ่นธรณีของโลก


ลักษณะการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีภาค
1. ขอบแผ่นธรณีภาคแยกออกจากกัน


เนื่องจากการดันตัวของแมกมาในชั้นธรณีภาค ทำาให้เกิด
รอยแตกในชั้นหินแข็ง เปลือกโลกตอนบนทรุ ดตัว
กลายเป็นหุบเขาทรุด เมื่อแมกมาเคลื่อนตัวแทรกขึ้นมาตาม
รอยแยก ทำให้แผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทรเคลื่อนตัวแยก
ออกไปทั้งสองข้าง กระบวนการนีี้เรียกว่า การขยายตัวของ
พื้นทะเลและปรากฏเป็นเทือกเขากลางสมุทร เช่น บริเวณ
ทะเลแดง, อ่าวแคลิฟอร์เนีย, กลางมหาสมุทรแอตแลนติก


2. ขอบแผ่นธรณีภาคเคลื่อนเข้าหากัน มี 2 แบบ
• แผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทรชนกับแผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทร เกิดเป็นแนวภูเขา
ไฟกลางมหาสมุทร เช่น หมู่เกาะมาริอานาส์ อาทูเทียน มีลักษณะเป็นร่องใต้ทะเล
ลึก มีแนวการเกิดแผ่นดินไหว


• แผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทรชนกับแผ่นธรณีภาคภาคพื้นทวีป ทำให้แผ่นธรณี
ภาคใต้มหาสมุทรมุดลงใต้แผ่นธรณีภาค ภาคพืื้นทวีป เกิดรอยคดโค้งเป็ น
เทือกเขาบนแผ่นธรณีภาคภาคพื้นทวีป เช่นที่อเมริกาใต้แถบตะวันตก แนว
ชายฝั่งโอเรกอนเป็นร่องใต้ทะเลลึก มีภูเขาไฟปะทุในส่วนที่เป็นแผ่นดิน เกิด
เป็นแนวภูเขาไฟชายฝัั่งเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง




• แผ่นธรณีภาคภาคพื้นทวีปชนกับแผ่นธรณีภาคภาคพื้นทวีป ส่วนหนึ่งมุดลง
อีกส่วนหนึ่งเกยกันอยู่เกิดเป็นเทือกเขาสูง เช่น เทือกเขาหิมาลัยในทวีปเอเชีย
และเทือกเขาแอลป์ ในทวีปยุโรป



3. ขอบแผ่นธรณีภาคเคลื่อนที่ผ่านกัน
เพราะแต่ละแผ่นธรณีภาคมีอัตราการเคลื่อนที่ไม่เท่ากันทำให้ไถล
เลื่อนผ่านมีลักษณะเป็นแนวรอยแตกแคบยาวมีทิศทางตั้งฉากกับเทือกเขา
กลางสมุทรและร่องใต้ทะเลลึก เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในระดับตื้นๆ ใน
บริเวณภาคพื้นทวีป หรือมหาสมุทร เช่น รอยเลื่อนซานแอนเดรียสอยู่ใน
ประเทศสหรัฐอเมริกา รอยเลื่อนอัลไพน์อยู่ในประเทศนิวซีแลนด์




การเปลี่ยนแปลงลักษณะของเปลือกโลก

1. ชั้นหินคดโค้ง

คดโค้งรูปประทุน (anticline) และคดโค้งรูปประทุนหงาย (syncline)

2. รอยเลื่อน คือ ระนาบรอยแตกตัดผ่านหินซึ่งมีการเคลื่อนที่ผ่านกัน และ
หินจะเคลื่อนที่ตามระนาบรอยแตกนั้น แบ่งเป็น 3 ประเภท

1. รอยเลื่อนปกติ


2. รอยเลื่อนย้อน






3. รอยเลื่อนตามแนวระดับ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น